(N)
การลงยาในพระเครื่องหรือเครื่องประดับมีมานานแล้วครับ ในอดีตส่วนใหญ่การลงยาจะพบมากในเครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มากกว่าพระเครื่อง
ปัจจุบันการลงยาในพระเครื่องต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเพิ่มความสวยงามให้พระเครื่องที่ลงยานั้นๆ นอกจากนี้สีที่ใช้ลงยายังเป็นค่านิยมหรือโฉลกต่างๆในการเลือกบูชาสีให้ตรงกับความชอบส่วนตัวความเชื่อของแต่ละคนด้วย
การลงยามีอยู่ 2 วิธีหลักๆครับ คือการลงยาร้อน และ การลงยาเย็น การลงยาร้อนขั้นตอนจะยุ่งยากกว่า แต่ความคงทนจะมีมากกวาการลงยาเย็น ข้อมุลที่หาได้เกี่ยวกับการลงยา มีดังนี้ครับ
ยาร้อน เป็นก้อนเล็ก ๆ ก่อนใช้ต้องเอามาบดเป็นผง แตะน้ำเล็กน้อย แล้วเอาไปป้ายที่จะลงยา แล้วใช้ไฟเป่า (ด้วยความชำนาญ) มันจะละลายติดทอง
ยาเย็น มันคือเซรามิคชนิดหนึ่ง ใช้ป้ายลงไปบริเวณที่จะลงยา แล้วอบด้วย UV ครับ ให้มันแห้ง ก็เป็นอันใช้ได้ แต่ความทนทาน จะสู้ยาร้อนไม่ได้
ใครมีเหรียญลงยาสวยๆ นำมาให้ชมกันครับ ส่วนผมขอชมว่าเหรียญรุ่น สร้างบารมี ๙๐ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ลงยาได้เทพมากๆ ทั้งเนื้อทองแดง และ เนื้อเงิน ลงยาได้สวยไม่เลอะตัวหนังสือหรือส่วนที่เป็นองค์พระเลยครับ (อาจมีบ้างแต่แต่ผมยังไม่เจอเลยครับ)
มาชมพร้อมๆกันครับ
ปัจจุบันการลงยาในพระเครื่องต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเพิ่มความสวยงามให้พระเครื่องที่ลงยานั้นๆ นอกจากนี้สีที่ใช้ลงยายังเป็นค่านิยมหรือโฉลกต่างๆในการเลือกบูชาสีให้ตรงกับความชอบส่วนตัวความเชื่อของแต่ละคนด้วย
การลงยามีอยู่ 2 วิธีหลักๆครับ คือการลงยาร้อน และ การลงยาเย็น การลงยาร้อนขั้นตอนจะยุ่งยากกว่า แต่ความคงทนจะมีมากกวาการลงยาเย็น ข้อมุลที่หาได้เกี่ยวกับการลงยา มีดังนี้ครับ
ยาร้อน เป็นก้อนเล็ก ๆ ก่อนใช้ต้องเอามาบดเป็นผง แตะน้ำเล็กน้อย แล้วเอาไปป้ายที่จะลงยา แล้วใช้ไฟเป่า (ด้วยความชำนาญ) มันจะละลายติดทอง
ยาเย็น มันคือเซรามิคชนิดหนึ่ง ใช้ป้ายลงไปบริเวณที่จะลงยา แล้วอบด้วย UV ครับ ให้มันแห้ง ก็เป็นอันใช้ได้ แต่ความทนทาน จะสู้ยาร้อนไม่ได้
ใครมีเหรียญลงยาสวยๆ นำมาให้ชมกันครับ ส่วนผมขอชมว่าเหรียญรุ่น สร้างบารมี ๙๐ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ลงยาได้เทพมากๆ ทั้งเนื้อทองแดง และ เนื้อเงิน ลงยาได้สวยไม่เลอะตัวหนังสือหรือส่วนที่เป็นองค์พระเลยครับ (อาจมีบ้างแต่แต่ผมยังไม่เจอเลยครับ)
มาชมพร้อมๆกันครับ